ณพรพรรณ เตชรุ่งชัยกุล ตำแหน่ง CCO ที่บริษัท RS GROUP ได้ให้การวิเคราะห์และแสดงความคิดเห็นประเด็นดังกล่าวผ่านทางทวิตเตอร์ส่วนตัว เกี่ยวกับประเด็นของ บอลโลก ที่กำลังจะมาถึงว่า ก่อนหน้านี้ทาง Laostar ได้โทรมาพูดคุย ถามว่าคุณกุ้งซื้อสิทธิบอลโลกไหม? อยากขอให้เจรจาเผื่อทางลาวให้หน่อย บอกเขาไปว่าไม่น่าจะมีใครซื้อ เพราะมันได้อยู่ใน must have มาถึงวันนี้ทางเรานั้นอาจจะต้องไปเกาะคลื่นสัญญาณของเขาดู โห ประเทศไทย เรามาไกลมาก น่าสงสารจริงๆ
โดย CCO บริษัท RS GROUP ได้ให้ความคิดเห็นดังกล่าวว่า จึงขอให้เรื่อง บอลโลก เป็นกรณีศึกษาในกระบวนการทำงานของภาครัฐเถอะนะ ถ้าเงินจำนวนนี้ผ่านออกมาจากทาง กสทช. ได้จริงๆ ก็ไม่รู้จะพูดอะไรต่อเกี่ยวกับประเทศไทย แต่การที่ไทยเป็นประเทศเดียวที่ไม่ได้ดูมหกรรมกีฬา ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกนั้น ก็คงไม่น่าจะหยิบเอาไปคุยเรื่องอื่นในการประชุม APEC จะทนกันไหวไหมล่ะ นักการเมือง
” 42 ล้านน่ะค่าสิทธิอย่างเดียว ไม่รวมค่าผลิตและส่งสัญญาณ ถ้าไปดูสำนวนที่เราฟ้อง กสทช. ในปี 2014 เราก็อธิบายชัดว่า ทางฟีฟ่าเขาคิดมาให้แล้วว่าที่กำหนดให้ดูฟรี 22 คู่ รวมเปิด ปิดรองชนะเลิศ เราจะมาหาเรื่องบังคับให้ดูฟรี 64 คู่เพื่ออะไร #บอลโลก2022 “
การแสดงความเห็นจากผู้บริหาร Rs ดังกล่าว สืบเนื่องมาจากในที่ประชุมของ กสทช. ที่มีมติเสียงข้างมาก ได้ออกมาว่าอนุมัติเงินสนับสนุนงบประมาณแก่ฝ่ายการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในการอณุมัติถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final) 2022 ที่กำลังจะจัดขึ้นในประเทศกาตาร์ กรอบวงเงินงบประมาณ 600 ล้านบาท แต่ยังไม่สามารถหาเงินอีกจำนวนหนึ่งมาจ่ายค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด เนื่องจาก กสทช. ยังขาดเงินอีกจำนวน 1,000 ล้านบาท ท่ามกลางประเด็นถกเถียงกันหลังจากหลักเกณฑ์ของกฎ Must Have และ Must Carry ที่ กสทช. ได้มีการตั้งขึ้นมาไว้